การทดสอบโดยใช้กระแสไหลวนแบบเรียงตัว (Eddy Current Array) เป็นเทคนิคที่พัฒนามาจากการทดสอบโดยใช้กระแสไหลวนขั้นพื้นฐาน ซึ่งประกอบไปด้วยแผงของขดลวดที่วางเรียงตัวกัน โดยมีจุดประสงค์เพื่อตัดสัญญาณการรบกวนซึ่งกันและกันในขณะที่ขดลวดถูกกระตุ้นตามลำดับ การสแกนด้วยเทคนิคแบบใหม่นี้บนชิ้นงานทดสอบนี้จะคลอบคลุมระยะการตรวจสอบที่มากกว่า และมีความไวในการตรวจหารอยบกพร่องได้ดีกว่าการทดสอบโดยใช้กระแสไหลวนขั้นพื้นฐาน
การทดสอบโดยใช้กระแสไหลวนแบบแทนเจนเชียล (Tangential eddy current array) หรือ TECTM เป็นเทคนิคที่ใช้หัวโพรบที่มีการออกแบบให้แผงของขดลวดมีการจัดเรียงตัวเป็นพิเศษ เพื่อใช้ในการการตรวจสอบวัสดุที่เป็นโลหะ โดยหัวโพรบแบบพิเศษนี้เรียกว่าฌาค (Shark) ซึ่งบรรจุเซ็นเซอร์ (Sensor) ที่เรียกว่าฟิงเกอร์ (Finger) ขนาดเล็กหลายๆ ตัวในหัวโพรบเดียวกัน ซึ่งแต่ละฟิงเกอร์จะประกอบไปด้วย 3 ขดลวด โดย 2 ขดลวดแบบแบบแทนเจนเชียล(Tangential) ทำหน้าที่ในการการรับและส่งสัญญาณ ส่วนอีก 1 ขดลวด (Conventional pancake coil) ทำหน้าที่ในการตรวจสอบตำแหน่งของรอยแตกร้าว และตรวจหารอยแตกร้าวตามแนวขวาง (Transverse crack)
นอกจากนี้หัวโพรบที่มีการเรียงตัวของขดลวดขนาดเล็กหลายๆอันนั้น ทำให้เพิ่มความสามารถในการแยกแยะรอยบกพร่องได้ดี รวมทั้งมีการกระจายตัวของกระแสไหลวนบนชิ้นงานทดสอบได้อย่างสม่ำเสมอ ส่งผลให้ความไวในการตรวจสอบอยู่ในระดับที่เหมาะสม
ฟิงเกอร์ที่อยู่ในหัวโพรบฌาค (Shark) มีความยืดหยุ่น ดังนั้นจึงสามารถปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับขนาดและรูปร่างของชิ้นงานหรือรอยเชื่อมที่ต้องการตรวจสอบได้ โดยสามารถตรวจสอบผิวงานของรอยเชื่อม ขอบของรอยเชื่อม และบริเวณที่ได้รับผลกระทบจากความร้อน (Heat affected zone) ได้ทั้งหมดในคราวเดียวกันจากการสแกนเพียงครั้งเดียว นอกจากนี้ยังสามารถบันทึกข้อมูลจากจากทดสอบทั้งหมดที่ความเร็วในการสแกนได้ถึง 200 มิลลิเมตร/วินาที (8 นิ้ว/วินาที)
ข้อดีของการทดสอบโดยใช้กระแสไหลวนแบบเรียงตัว
- สามารถครวจหารอยแตกร้าวที่ผิวและรอยแตกร้าวตามแนวขวางพร้อมกันจากการตรวจสอบครั้งเดียว โดยที่ไม่ต้องทำการเตรียมผิวหรือลอกสี
- ครอบคลุมพื้นที่ที่ต้องการทดสอบได้มากกว่า โดยตรวจสอบผิวงานของรอยเชื่อม ขอบของรอยเชื่อม และบริเวณที่ได้รับผลกระทบจากความร้อน (Heat affected zone) ได้พร้อมกัน
- ความเร็วในการสแกนชิ้นงานทดสอบสูงถึง 200 มิลลิเมตร/วินาที
- การทดสอบมีความน่าเชื่อถือ โดยไม่ขึ้นกับทักษะของผู้ปฏิบัติงานมาก เมื่อเปรียบเทียบกับวิธีการทดสอบแบบอื่นๆ
- ข้อมูลของการทดสอบทั้งหมด สามารถเก็บบันทึกได้
Eddy current arrays are the natural extension of Eddy current testing (ECT). ECAs are composed of arrays of coils that activate in sequences intended to eliminate interference between them. The array slides on top of surfaces, offering an overall wider coverage and better sensitivity to defects than conventional eddy current testing.
This is referred to as tangential eddy current array or TECA™. Each finger in Sharck™ probe contains three coils: two tangential coils (working in a transmit-receive mode) and one conventional pancake coil used to monitor crack position and detect transverse cracks. Using several small coil arrangements yields great resolution, while multiplexing channels over many fingers provides a large, uniform eddy current distribution for optimal sensitivity.
The spring-loaded fingers of the Sharck™ probe adapt to the geometry of the weld crown. This enables scanning the weld cap, the toe area, and the heat affected zone in a single pass at up to 200 mm/s (8 in/s) with full data recording.
The advantage of Eddy Current arrays
- Single-pass detection for surface-breaking cracks of longitudinal and transverse cracks without surface preparation or paint removal
- Wide coverage - Simultaneously scan weld cap, toe area, and heat-affected zone
- High scanning speed up to 200 mm/s
- Reliable, less operator dependent compared to alternatives
- Full data recording and and archiving capabilities