Pipe และ Tube ต่างกันอย่างไร มีข้อดีข้อเสียอย่างไร
Pipe (ไพพ์) เป็นท่อที่มีลักษณะเป็นท่อกลวงทรงกระบอก นิยมนำมาใช้ในการส่งของไหลเป็นหลัก ถูกออกแบบเพื่อให้ของเหลวจากอุปกรณ์หนึ่งวิ่งไหลผ่านไปอีกอุปกรณ์หนึ่ง ท่อประเภทนี้จะถูกออกแบบในระบบ Piping System เช่น ASME B31.1 และ 31.3 เป็นต้น Pipe ที่ใช้งานส่วนมาก จะมีขนาดเริ่มตั้งแต่ NPS 1/8 ถึง NPS 80 หรือใหญ่กว่านี้ในกรณีพิเศษ สำหรับความหนาของผนังท่อถูกกำหนดเป็น Schedule Number หรือ Weight Class
Tube (ทูป) เป็นท่อที่มีลักษณะเป็นท่อกลวง มีรูปทรงหลายแบบ เช่น วงกลม วงรี สี่เหลี่ยม เป็นท่อที่ใช้ในการส่งของไหลเหมือนกับไพพ์ แต่จะสามารถส่งได้หลายประเภทมากกว่า จึงนิยมนำมาติดตั้งภายในอุปกรณ์ของเครื่องจักรกล ระบบส่งกำลัง และงานโครงสร้างต่าง ๆ เช่น นำมาใช้เป็นท่อเพื่อแลกเปลี่ยนความร้อน หรือเป็นท่อในการส่งระบบลมไปยังอุปกรณ์ต่าง ๆ ในระบบส่งกำลังไฮดรอลิก (Hydraulic) Tube ที่ใช้งานส่วนใหญ่มีขนาดตั้งแต่ OD. 1/8 นิ้ว ถึง 3 นิ้ว
จุดเด่น-จุดด้อย Pipe และ Tube
- Pipe มีขนาดให้เลือกใหญ่กว่า Tube จึงสามารถส่งผ่านของไหลได้เยอะกว่า
- Pipe ราคาถูกกว่า เพราะ Tube มีกระบวนการผลิตที่ซับซ้อน ราคาจึงสูงกว่า
- Pipe มีน้ำหนักมากกว่า Tube การติดตั้งและค่าขนส่งจึงสูงกว่า
- Tube สามารถดัดได้ ลดโอกาสของการรั่วได้ดีกว่า Pipe
- Tube มีผนังบางกว่า pipe แต่การรับแรงดันได้เท่าๆกับ Pipe ที่ผนังหนากว่า
- Pipe มีการบำรุงรักษาที่บ่อยมากกว่า Tube ต้องถอดเส้นท่อออกเป็นระยะ
บริษัท ควอลลีเทค จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจวิศวกรรมความปลอดภัย ด้านการบริการงานทดสอบโดยไม่ทำลาย (Non-Destructive Testing) และการตรวจสอบและรับรองคุณภาพ (Inspection and Certification) รวมถึงการให้ความเห็นทางวิศวกรรมระดับสากล ในฐานะผู้เชี่ยวชาญอิสระ (Third party engineering service) ให้กับองค์กรต่าง ๆ เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการตรวจสอบหรือประเมินคุณภาพตามมาตรฐานสากลและข้อกำหนดที่ลูกค้าต้องการรวมทั้งข้อกำหนดตามกฎหมาย